ลงประกาศฟรี โพสต์ฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN
ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => อสังหาริมทรัพย์ => Topic started by: www.SeoNo1.co.th on April 22, 2025, 05:36:10 PM
สำหรับราคาทาวน์โฮมแพรกษา (https://nakornthong.co.th/project/2/living) อยู่ที่ประมาณ 2.59-5.49 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นช่วงราคาที่ไม่สูงเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีบ้านหลังแรก อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจซื้อบ้านตั้งแต่อายุยังน้อย จำเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสม โดยวิธีเก็บเงินซื้อบ้าน มีดังนี้(https://lh7-rt.googleusercontent.com/docsz/AD_4nXdd6LR4D-gloyGK_RLKIEX38sVTcX0tH2WLW94NEXApxNcehAWESb96emYLY7krCb5tL-Z5ALmG46wAFJC-8z8xImEYgeIJA_3J2oNfaCmjiOVXukaAlthQhBJNSo9oqC09iPM_gA?key=Q-dW5rMtuIRuN-QYTHdm7qT8)[ol]
[/ol]
แม้อายุน้อยจะมีความเสี่ยงในชีวิตต่ำ เมื่อเทียบกับผู้ที่มีอายุในวัยกลางคน ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละคน เช่น ฐานะครอบครัว ไลฟ์สไตล์ และค่าครองชีพในพื้นที่ ทำให้การวางแผนการเงินระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยตัวอย่างสมมติ ของนาย A มีการวางแผนการเก็บเงินซื้อบ้าน ดังนี้[ul]
- อายุ 20-23: เป็นช่วงวัยเรียน การเก็บเงินอาจเป็นเรื่องท้าทาย เพราะยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง แต่ได้เงินใช้จากครอบครัวเดือนละ 7,000 ดังนั้น ควรเริ่มจากแยกบัญชี สำหรับเก็บออม และค่าใช้จ่ายออกจากกัน 50 % จะทำให้เหลือเงินเก็บ 3,500 บาท ภายใน 3 ปี จะมีเงิน 126,000 บาท
- อายุ 24-27: เป็นช่วงวัย First Jobber ซึ่งมีฐานเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท โดยควรเก็บให้ได้ 30 % ของเงินเดือนได้ เท่ากับว่าจะมีเงินเก็บ 4,500 ต่อเดือน หากเงินเดือนเพิ่ม ปีละ 1,000 นาย ภายใน 3 ปี จะมีเงิน 172,800 บาท
- อายุ 28-30: เป็นช่วงหลายคนเริ่มปักหลักกับการงานที่ชัดเจน โดยหากยังทำงานที่เดิม และได้เงินเดือนเพิ่มปีละ 1,000 นาย A จะมีเงินเก็บใน 3 ปี รวม 205,200 บาท
[/ul]
ทั้งนี้ นาย A สามารถเก็บเงินซื้อบ้านตลอด 11 ปี ได้ 504,000 บาท ซึ่งสามารถเป็นเงินก้อนสำหรับดาวน์บ้านในราคา 2-5 ล้านบาท ได้อย่างเพียงพอ*หมายเหตุ การยกตัวอย่างในที่นี้ เป็นการเปรียบเทียบโดยคร่าว ๆ และยังไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราภาษี การลงทุน และการหารายได้เสริมเพิ่มเติม เนื่องจากแต่ละบุคคลมีพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน[ol]
[/ol]
การแยกประเภทรายรับ และรายจ่ายในแต่ละเดือน จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายหลักได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าที่พักอาศัย ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าซื้อของใช้ส่วนตัว หรือค่าท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพื่อให้บริหารเงินได้คล่องตัว ควรแบ่งค่าใช้จ่ายเป็น 3 หมวด ได้แก่[ul]
- ค่าใช้จ่ายคงที่: รายจ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน เช่น ค่าสาธารณูปโภค หรือค่าที่พักอาศัยแบบอยู่เช่า
- ค่าใช้จ่ายเพื่อการออม: รายจ่ายที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว เช่น เงินเก็บ เงินลงทุน หรือเงินสำรองฉุกเฉิน เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายผันแปร: ค่าใช้จ่ายตามความฟุ่มเฟือย เช่น ค่าเดินทาง ค่ากิน หรือค่าความบันเทิง เป็นต้น
[/ul]
(https://lh7-rt.googleusercontent.com/docsz/AD_4nXegoe_94x84F8tra_RHqT3yg12_7-etyi4KcIWK_4YMq5a-wLm_npH7ZZlJonGNzCgs6Zo8nWd-MbHQ6N6ECFGM8cpFooTvBp5NgRT4WFQCzh-Nmd0b7ZIorr61eiCOm5yN5vQk?key=Q-dW5rMtuIRuN-QYTHdm7qT8)[ol]
[/ol]
การมีงานประจำเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย หรือความต้องการในการใช้จ่ายของคนยุคปัจจุบัน ทำให้หลายคนมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้การเงินคล่องตัวมากขึ้น เช่น ขายของออนไลน์ หรือนำทักษะเด่นของตัวเองมาต่อยอดรายได้ อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกการทำงานเสริมเป็นการเพิ่มภาระ ก็สามารถนำหลักพิจารณาเงินเหลือหรือเงินขาด มาตัดสินใจเพิ่มเติม เช่น การจัดลำดับความสำคัญของรายจ่าย โดยตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และลงทุนหรือออมเงินในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น กองทุน หุ้น และการฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง เป็นต้น[ol]
[/ol]
เคล็ดลับสุดท้าย ที่สามารถช่วยให้การเก็บเงินซื้อบ้านในช่วงวัย 30 ปีเห็นผลได้จริง คือ การลองเก็บเงินให้ได้เท่ากับจำนวนเงิน ที่ต้องผ่อนบ้านเป็นระยะเวลา 6-12 เดือน วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถปรับตัวกับค่าใช้จ่ายที่ไม่เกินกำลัง และทำให้เข้าใจภาระหนี้สินรายเดือนของบ้านได้อย่างชัดเจน ว่าจะส่งผลต่อวิถีชีวิตของเราอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ คุณควรมีวินัยทางการเงิน และซื่อสัตย์ต่อตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้จริง ก่อนตัดสินใจออมเงินซื้อบ้านขอบคุณข้อมูลจาก https://www.nakornthong.co.th/ (https://www.nakornthong.co.th/)